วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

อภิมหาสงครามล้างโลก “War of the Worlds”


_____ใครไม่เคยดูเวอร์ชั่นเก่าก่อนก็คงจะผิดหวังตามๆ กันครับในเวอร์ชั่นเก่านี่มีมาแต่สมัยหนังขาวดำ แล้วก็รีเมกใหม่ตอนเป็นสี และตัวหนังเองก็เป็นหนังประเภทคอหนังฮอลลีวูดคุ้นเคยกันดีดูกันบ่อยๆ มุมมองก็เลยเป็นแบบสงครามเพราะมีฉากต่อสู้กันระหว่างทหารเป็นสำคัญมาฉบับนี้เป็นมุมมองใหม่ จะติจะชมก็ต้องโยนไปที่ทอม ครุ้ยส์ครับ พี่ท่านเล่นซื้อลิขสิทธ์หนังเก่าแล้วเอามาสร้างใหม่จ้างผู้กำกับดัง (ทำไปแล้วอย่าง มิชชั่นอิพอสซิเบิ้ลทุกภาค) มากำกับแล้วก็เอาชื่อเป็นจุดขาย มุมมองที่ว่านี้ค่อนข้างส่วนตัวครับ เข้ากันกับยุคสมัยของสังคม ปัญหาถูกมองย่อยลึกมาถึงสถาบันที่ใกล้ตัวคนเราที่สุด “ครอบครัว” ทอม ครุ้ยส์เองก็แอบแก้แค้นเล็กๆ ระดับแฟนพันธุ์แท้จะเห็นในหนังทันทีอย่างเช่น



  1. สมัยเล่นเรนแมน พี่ท่านบ่นว่าโดนพ่อเรียกตำรวจจับเมื่อแอบเอารถคันโปรดไปขับเล่น มาคราวนี้ก็เก็บมุขเดิมไปขู่ลูกชายไม่ให้แอบเอามัสแตงไปขับ

  2. พี่ทอมมีปัญหากับเจ๊นิโคล เรื่องไม่มีเวลาเอาใจใส่ลูกบุญธรรมและก็เป็นทั้งพ่อและแม่ที่ไม่ได้ความ แต่พี่ทอมก็แสดงตัวตนออกในหนังอย่างชัดเจนว่า "ถึงผมจะ(เป็นคน)ไม่ได้ความแค่ไหน แต่ผมก็ไม่มีวันทิ้งลูกไปไหนเด็ดขาด"

  3. สมัยพี่ท่านเล่นหนังซีเรียสอย่าง บอร์น ออนเดอะโฟธ ออฟจูลาย ก็อยากเป็นทหารรับใช้ชาติไม่กลัวตาย แบบเดียวกับ ทิม รอบบิ้น ในหนัง หัวอกพี่ท่านได้แสดงออกว่า แหลกสลายขนาดไหนที่ต้องปล่อยให้ลูกชายไปเผชิญกับตัวประหลาดต่างดาวลำพัง ความในใจแบบนี้ไม่มีให้เห็นในหนังของ โอลิเวอร์ สโตน

_____ยังมีอีกเยอะครับ อีกอย่างที่การันตีว่าเป็นฝีมือของ ลุงสปีลเบอร์กก็คือ มุมกล้องที่ใช้ปั้นจั่นถ่ายหมุนมุมได้อิสระแล้วตัดต่อได้แนบเนียนเยี่ยมยอด แล้วการเปิดฉากสงครามได้น่ากลัวพอๆ กับสมัยเอาลูกกระสุนมาปลิวว่อนใน ไรอัน ของสปีลเบอร์ก สร้างภาพแง่ร้ายความโหดของสงคราม ความดุร้ายของไดโนเสาร์ และการรุกรานไร้สัญญาณบอกของเอเลี่ยน ทำได้งดงามมากครับ

_____คนดูคงจะเทียบกับ ไอดีโฟร์ ก็พอได้ครับ ผมว่า ไอดีโฟร์ กลายเป็นหนังเลียนแบบที่เหมาะสำหรับคนต่างประเทศ อย่างเราๆ ครับ ที่ใส่ฉากแอคชั่นสุดมันส์ได้อย่างกลมกลืน แทบจะเป็น วอร์ ออฟเดอะเวิลด์ ในสมัยใหม่ ทอม ครุ้ยส์ ถึงได้เปลี่ยนมุมมองมาเป็นแบบใกล้ตัวกว่า ซึ่งสำหรับผมแล้วก็ไม่ค่อยอิ่มกับเนื้อเรื่องเหมือนกัน แต่พี่ท่านก็พยายามเอาโครงหลักของหนังเดิมมาใส่ให้ครบถ้วนได้อย่างกลมกล่อม แต่ในเมื่อมีฝีมือขนาดนี้ก็น่าจะผิดหวังที่ปล่อยฝีมือไปได้ไม่ถึงครึ่งของที่ควรจะเป็น

_____สุดท้ายครับ เสียงพากย์ น่าเบื่อมากไม่ขลังพอที่จะเป็นพ่อคน โทนเสียงให้แต่น้ำเสียงเบาหวิวครับ เสียงหนูดาโกต้า กรี๊ดกร๊าดแสบหูครับ น่าจะไปพากย์ได้ตั้งแต่ อัพทาวเกิร์ลเนอะ หนูดาโกต้านี่โชคดียิ่งกว่าใครๆ ที่ได้ประกบแต่ดาราใหญ่ดังๆ ทั้งนั้น ผมไม่แน่ใจว่า ดาราใหญ่อยากประกบหนูน้อยมากกว่า หรือดาโกต้าอยากประกบกันแน่ครับ

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ดูแล้วผิดหวังหน่อย ไม่สมกับที่ตั้งคิดไว้

พอได้มาดูของเดิมก็พอเข้าใจ

แต่ก็แอบผิดหวังอยู่ดี

ชอบดาโกต้าครับ