______วันก่อนได้ดูข่าว กีฬาอนุบาลกรุงเทพ ก็ทำให้นึกถึงหนัง “ดรีมทีม” ที่ดูมาพักนึงแล้ว ยอมรับว่าเป็นหนังที่ใช้ได้ ช่วงปิดภาคเรียนใหญ่หรือปิดซัมเมอร์เดียวกันก็จะมีหนังแนวเด็ก ๆ ทยอยออกมาเยอะ ดูเหมือนหนังจะถูกเตรียมไว้ฉายช่วงนี้โดยเฉพาะก็เลยดูเป็นหนังกระป๋องที่ผลิตจากโรงงานโดยมีรายการสั่งเฉพาะ แต่ก็สนุกดี ผู้กำกับ เรียว กิตติกร มีผลงานสนุก ๆ มาแล้วเร็ว ๆ นี้อย่าง “เมลล์นรกหมวยยกล้อ” ที่กำกับซูโม่กิ๊กให้อยู่ในอารมณ์เครียดได้อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนแถมยังได้เป็นดารานำได้ถึงสองเรื่อง ส่วนที่ต้องชมก็คือ โครงการจับปูใส่กระด้ง การกำกับเด็กนั้นยากและผมก็ยอมรับว่าบทสนทนาระหว่างเด็กกับเด็กรวมถึงเด็กกับผุ้ใหญ่นั้นดึงความคิดของเด็กออกมาได้ถูกจังหวะดีทั้งน่ารักไร้เดียงสาแถมประชดประชันนิด ๆ หนังให้ข้อคิดที่ดีเกี่ยวกับการเอาชนะ จากเดิมที่เอาชนะไม่ได้แม้แต่ผู้หญิงด้วยความตั้งใจทำให้พวกเด็ก ๆ เดินก้าวไปสู่รางวัลชนะเลิศได้สำเร็จแม้จะทุลักทุเลประสาเด็ก ก็ตาม อีกประเด็นที่ผมนำมาคิดก็คือ หนังอาจจะดูสนุกแล้วผ่านไป โรงเรียนที่ไม่เคยส่งเสริมให้เด็กไปแข่งกีฬาอะไรเลยหลังจากได้ชัยชนะระดับล้มแชมป์แล้วพวกครูจะทำกันอย่างไร ผู้ปกครองในหนังเองก็น่ายกย่องที่ให้กำลังใจลูกหลานและส่งเสริมให้รู้จักเล่นกีฬาอย่างดี จนผมลุ้นแทบแย่ที่จะให้หนุน้อย “หัวแก้ว” ได้ลงแข่ง เพราะการที่ได้ลงเล่นกีฬาจริง ๆ แม้จะแพ้กลับมาก็ถือว่ายังได้รับความภูมิใจ ยิ่งได้รับชัยชนะกลับมาหัวใจแทบจะบินได้ คนที่ดูหนังแล้วควรจะกลับไปคิดว่า นอกจากจะปล่อยให้ลูกหลานนั่งเล่นคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียวแล้วไม่มากวนใจพ่อแม่นั้นไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย ควรปล่อยให้เด็ก ๆ ออกกำลังกายบ้างถ้าให้ดี โรงเรียนที่ไม่เคยส่งเสริมเลยก็รีบจัดการซะ พ่อแม่ผู้ปกครองก็ให้เวลากับเด็กบ้าง แล้วอย่าเห่อเป็นพัก ๆ ล่ะ
วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2551
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น