วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ล่าคนดุในเมืองเดือด "No Country For Old Men"


_____อุตส่าห์ตั้งชื่อหนังเกือบจะคล้องจองกันแล้วเชียวผมว่าจะให้ชื่อหล่อแบบไม่เร้าใจดีกว่าว่า “เหตุเกิด ณ บ้านนอก” ที่ว่าอย่างนั้นก็เป็นเพราะตัวหนัง ผู้กำกับเองก็ถนัดทำหนังทุนต่ำเนื้อเรื่องน่าเบื่อแต่กลับไม่จำเจ ถ้าเคยดู Fargo มาก่อนแล้วเกิดชอบขึ้นมาก็รู้เลยว่าผู้กำกับเริ่มเอาใจคนดูขึ้นมานิ๊ดนึงแล้ว ประเด็นง่าย ๆ ที่เกี่ยวกับชีวิตคนเราจู่ ๆ ก็ไปยุ่งเกี่ยวกับอาชญากรแบบตั้งใจหรือไม่ตั้งใจมันคิดเองได้มีเวลาตัดสินใจอยู่หลายนาทีในหนัง ระหว่างที่ดูผมเองตัดเอาใจตัวเองเข้าไปในหนังแบบคิดออกก่อนหนังตลอดเวลา นั้นเป็นเสน่ห์ของผู้กำกับจริง ๆ ส่วนใหญ่เราจะดูหนังแบบคาดเดาไม่ถึงตลอด ไม่ค่อยมีหนังประเภทที่คนดูต้องโพล่งออกมา “ว่าแล้วเป็นกูก็ต้องทำอย่างนี้” หรือ “มิน่าล่ะ กูกะแล้วเชียว” มองในแง่ดีก็คือเราได้เข้าไปร่วมเหตุการณ์ของหนังอย่างเต็มใจ ชื่อเรื่องก็บอกว่าล่าคนดุ แล้วก็ดุจริง ๆ ผมมองเห็นอาชญากรโรคจิตตัวจริงในหนังจากคาแร็คเตอร์ของ ซิเกอร์ชุดดำผมทรงผิดยุคที่ดูแล้วผิดปกติแน่ ๆ ใบหน้าซีดเผือดและคำพูดนุ่มนวลแต่เอาจริง ๆ หมอนี่ผู้ร้ายในฝันชัวร์ ๆ ส่วนพระเอกก็เป็นตาแก่นายอำเภอที่มีฝีมือแต่ต้องเดินตามหลังตลอด มันช่างเสียดสีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองประเทศกลังพัฒนาจริง ๆ (เพราะหนังจะไม่มีตัวหนังสือ FBI อะไรทำนองนี้ที่จะทำให้เจ้าหน้าที่ดูแข็งแรงหรืออุ่นใจ มีแต่ความอ่อนเพลียระเหี่ยใจว่ามันจะเจอผู้ร้ายมั้ยเนี่ย? ) หนังประสบความสำเร็จมากอย่างที่ผมเองก็คาดไม่ถึงว่าหนังแนวนี้จะโด่งดังเข้าขั้นหนังดีได้อย่างไรกัน ลองให้พ่อผมดูหนังก่อนก็บ่นกลับว่าหนังอะไรชวนติดตามแต่ไม่จบสงสัยจะมีต่อ? มันก็ขัดใจจริงนี่ครับ อาชญากรรมที่โลกไหนกันครับจะมีวันจบสิ้นไม่ว่ากาลเวลาผ่านไปยุคเก่ายุคใหม่อย่างไรก็ตามก็ยังคงมีอาชญากรดำเนินกิจกรรมอยู่เสมอ ผุ้ร้ายแค่สะบักสะบอม คนดีก็ไม่ดีเนื้อแท้บทจะตายก็ตายเอาง่าย ๆ ส่วนเจ้าหน้าที่เป็นแค่เต่าเชื่องช้าอย่ามัวหวงศักดิ์ศรีลุกจากเก้าอี้ให้คนรุ่นใหม่ไฟแรงมาทำงานแทนดีกว่า โลกมันเปลี่ยนไปมากแล้ว พ่อผมจะได้ดูหนังที่ตอนจบจริง ๆ ซักเรื่องนึงไงครับ ขอบคุณคร๊าบท่านผู้กำกับ...

ไม่มีความคิดเห็น: