วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2551

แปดวัน แปลกคน "The 8th Day"


______ในที่สุดก็มีหนังเรื่องนี้ให้ดู สมกับเป็นหนังวิจารณ์จริง ๆ ยังไงก็ต้องขอบอกก่อนว่าถ้าความอดทนไม่ถึงหรือชอบดูหนังเพื่อความบันเทิงก็โปรดเดินข้ามหนังเรื่องนี้ไปได้เลย หนังไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่เพียงแต่ไม่ได้สร้างเพื่อทำรายได้หรือฝากฝีมือให้คนจดจำ สำหรับผมก็ยังไม่ใช่หนังที่ดีที่สุดเพราะขาดความสมบูรณ์แบบในการครองใจคนที่ใจกว้างจะดูหนังได้หลาย ๆ แนวไม่สำเร็จ อันดับแรกก็ต้องชมว่าเป็นหนังทุนต่ำที่ทำได้ดี ใช้คนแสดงน้อย โลเกชั่นไม่กี่ฉาก ดาราแสดงดีไม่ต้องห่วงเรื่องค่าตัว แต่การถ่ายทำฉากชวนขนลุกขนพองทำให้อินกับหนัง ภาพขาวดำเกือบตลอดเรื่องเสมือนหนึ่งเราเห็นความถูกผิดที่เกิดในหนังเราอาจจะพิพากษาตัวละครอยู่ตลอดเวลา ส่วนภาพสีเหมือนภาพที่ดูผ่อนคลายสำหรับ ป้าชุบ ราวกับป้าชุบเป็นคนไร้เดียงสามองโลกสวยงามตลอดเวลา ผิดกับเรา ๆ ที่เห็นแค่ถูกไม่ก็ผิด ลองสรุปเนื้อหาของหนังอย่างที่ผมเข้าใจก็คือ ป้าชุบแกรักษาอาการทางจิตจนหายไม่จำเป็นต้องกินยาอีกต่อไป แกไม่ต้องวิตกอะไรแม้แต่ใครจะมากลั่นแกล้งหรือรังเกียจแม้ธรรมชาติจะแกล้ง แมลงวันจะตกในแก้วน้ำแก็ไม่แยแสที่จะกลืนมันลงไปยอมรับชะตากรรมตราบที่มีลมหายใจอยู่ แต่นักศึกษาหนุ่มที่ได้โอกาสจะเฝ้าสังเกตพฤติกรรมความทรงจำบกพร่องของป้าชุบที่ชวนน้องแพรมาแล้วหลงลืมขังไว้ในบ้านจนเกิดอาการหลอนนึกถึงลูกสาวที่เสีย จนอาการจิตเพทของป้าชุบจู่ ๆ ก็เริ้มทรุดจนคลั่ง ตลอดแปดวันในหนังทำให้ผมรู้สึกอึดอัดทรมานพอ ๆ กับน้องแพร หนังมีจุดผิดพลาดมากมายตามประสามือใหม่แต่ก็ให้อภัยกันได้ เพราะน้องแพรไม่ได้แตะต้องน้ำซักหยดก็ยังมีชีวิตอยู่ดีจนหนังจบ ดูหนังจบแล้วผมกลับมานึกถึงหนังเรื่องหนึ่งคือ “คำพิพากษา” หรือ “ไอ้ฟัก” ที่ตอนจบไม่แตกต่างกันชวนให้อึดอัดและเจ็บใจเล็กๆ ที่สังคมจะมองด้านเดียวแล้วตัดสิน ที่น่าเจ็บใจกว่าผมก็คิดถึงเรื่องชายเสียสติที่ไปทุบ รูปท้าวมหาพรหม แล้วชาวบ้านรุมกระทืบจนตาย นั้นเป็นที่ผมสงสัยที่สุดว่าเกี่ยวกับแรงบันดาลใจที่นำมาสร้างหนังหรือเปล่า ก็อาจไม่เกี่ยวกันออกตัวไว้ก่อน

ไม่มีความคิดเห็น: