วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2551

สี่แพร่ง “Phobia , 4bia”


_____วงการหนังไทยกำลังก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ ไม่แปลกที่ผู้ที่คิดว่าตนเองเป็นผู้นำจะต้องชิงลงมือก่อน วงการหนังไทยกำลังตื่นตูมและสนใจหนังสั้นส่วนสำคัญคือแรงบันดาลใจและความถนัดของผู้กำกับหน้าใหม่ที่เริ่มศึกษามักมองหนังผีเป็นผลงานที่ชวนให้คนสนใจมากที่สุดยกตัวอย่างง่ายมากอย่าง “ผีสามบาท” ถือว่าประความสำเร็จได้ถึงระยาวเลยทีเดียวเมื่อมีสามแล้วก็ต้องตามด้วยสี่ “สี่แพร่ง” แม้ชื่อเรื่องจะไม่ได้บอกอะไรภายในตัวหนังเท่าไรก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญสี่แพร่งสี่ตอนเป็นการกำกับหนังและสร้างด้วยต้นทุนที่ต่ำสุด ๆ การแข่งขันยุติธรรมดีผมขอเทคะแนนให้ตอนที่สาม “คนกลาง” เพราะใช้ต้นทุนต่ำสุดคนแสดงน้อยสุดอุปกรณ์น้อยสุดแถมมีเนื้อเรื่องหักมุมคาดไม่ถึงที่สุด “เหงาเหมือนจะใช้ทุนน้อยเพราะมีคนดำเนินเรื่องแค่คนเดียวแต่ก็ยังมีตัวประกอบอีกเป็นสิบไม่เปลืองบทพูดแต่ก็ใช้การสื่อสารไร้เสียงแทนผมไม่ถือว่าใช้ฝีมือซักเท่าไรและความน่ากลัวชวนสะดุ้งตกใจก็ถือว่ายกมาจากอินเตอร์เน็ตล้วน ๆ หลังจากตกใจแล้วทำให้ผมขำออกที่ภาพชวนตกใจพร้อมเสียงกรี๊ดลั่นเห็นได้บ่อย ๆ ในอินเตอร์เน็ตนึกไม่ถึงว่าจะเอามาใส่ในหนัง “เที่ยวบิน224” ถือเป็นศูนย์รวมความกลัวทุกรูปแบบที่ใช้การแสดงอารมณ์กลัวล้วน ๆ กลัวจนเป็นบ้าตายไปเลย สิ่งแปลกใหม่ของวงการหนังไทยที่ถ่ายทำภายในห้องโดยสารเครื่องบินซึ่งเรา ๆ ไม่ค่อยเห็นในหนังไทยส่วนตอนจบก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ “ยันต์สั่งตาย” น่าจะเอามาเป็นตอนจบมากกว่าเพราะแทบไม่เหลือความเกี่ยวโยงกับหนังสามตอนนั้นเลยนอกจากลูกตาเปื้อนเลือดจ้องขวาง ไคลแม็กซ์ในตอนจบน่าจะเป็นนภาพติดตาให้คนดูเก็บไปฝันร้ายมากกว่าจะไปปรับเปลี่ยนอารมณ์กับสองตอนที่เหลือ เห็นได้ชัดว่าสายป่านยังต้องใช้เวลาอีกหน่อยถึงจะเทียบชั้นรุ่นพี่อย่างพลอยได้ ทำให้คนดูอดดูตอนจบเจ๋ง ๆ ของตัวหนังแทนที่จะใส่ชั้นเชิงการเชื่อมโยงที่ของหนังสี่เรื่องให้น่าสนใจอย่าง “ผีสามบาท” ก็จะตำราที่ยังคงเก็บขึ้นหิ้งชั้นบนอยู่ไม่ต้องเก็บเข้ากรุอย่างที่คิด

ไม่มีความคิดเห็น: