วันอังคารที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ตำรวจเดือดล่าล้างเดน “Street Kings”


______นับตั้งแต่ได้ดู TRAINING DAY หรือ ตำรวจระห่ำ คดไม่เป็น ผมเฝ้ารอคอยผลงานใหม่อย่างใจจดใจจ่อก็ต้องทำใจเย็นรอดูทางจอแก้วเพราะเป็นโรงภาพยนตร์ในบ้านตามแบบถนัดของผม เป็นปลื้มมากที่ได้ดูหนังของ David Ayer เพราะบรรยากาศของ Street Kings ก็ไม่ได้ไกลไปจาก TRAINING DAY ซักเท่าไรแต่ก็ไม่รู้สึกจำเจซักนิดเพียงแต่หนังใหม่เพิ่มดีกรีความสนุกและเรื่องราวที่ใหญ่โตขึ้นกว่ามากจนผมกลัวว่าจะไม่มีมุขใหม่มาเขียนเรื่องอีก เทรนนิ่งเดย์ เป็นหนังตำรวจฝึกหัดถือว่ายังอ่อนประสบการณ์ แต่ สตรีทคิงส์ นั้นเป็นรุ่นพี่กำลังห้าว คาดว่าเรื่องต่อไปคงเป็นตำรวจรุ่นปู่กระมัง (พูดเล่น) หนังเน้นการใช้อิทธิพลมืดของตำรวจเพื่อทำเงินรายได้และเอาตัวรอด ภาพตำรวจที่เราเห็นในหนังไม่ใช่มีแต่ตำรวจเลวแต่ ทอม ลัดโลว์ (คีอานู รีฟ) เป็นตำรวจดีสันดานดุที่กำลังจมกับความโสมมทุกรูปแบบและไม่สนวิธีการใด ๆ ในการจัดการกับผู้ร้ายแถมยังเน้นการ “วิสามัญฆาตกรรม” เป็นหลัก ช่วงอินโทรของหนังผมมองภาพพระเอกเราเป็นจอมโทโส “แบรดพิตต์” อยุ่ตลอดจนมาถึงจุดเปลี่ยนแปลงของหนังผมก็เริ่มนึกภาพตามที่เห็นเป็น คีอานูรีฟ เขาเหมาะกับบทมาก ตำรวจขาลุยแบบแจ็คเทรวิสใน “Speed” หรือนายตำรวจยูท่าร์ “Point Break” บวกคาเร็คเตอร์ของฮีโร่ด้านมืดอย่าง “คอนสแตนติน” มันช่างลงตัว มันทำให้หนังขึ้นแท่นเป็นหนังเกรดเอ “Forest Whitaker” ก็เป็นดาราคนหนึ่งที่ไม่ค่อยแสดงหนังเป็นตัวโกง แต่ก็มีให้เห็นใน Last King of Scotland ในบทจอมโหด ฮีบี้อามิน แล้วบวกเรื่องนี้ไปอีกเรื่อง หนังไม่ได้จบแบบการคลี่คลายปริศนาคดีแต่หักมุมไปที่ผู้ร้ายที่ร้ายยิ่งกว่าโจรชั่ว วังวนของความชั่วมันอาจจะเริ่มจากอิทธิพลที่ควบคุมได้หรือผุ้ที่มีหน้าที่กำจัดอิทธิพลมืดแต่กลับมีอิทธิพลซะเอง แหม! ตำรวจชั่วก็มีแต่ตำรวจดีก็มีถม พูดไปกี่ยุคก็ได้แค่เอามาปลอบใจตัวเองมากกว่า ดูหนังจนจบเพิ่งนึกออก ถ้าหากดาราแสดงนำเปลี่ยนจาก คีอานูรีฟ เป็นบรู๊ซวิลลิส หนังก็จะไปเรื่อย ๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่เลยกลายเป็นหนังจำเจจาก หนังดีของปีอาจจะพลิกฝ่ามือเป็นหนังธรรมดา ๆ เรื่องหนึ่งเลยก็ไม่แน่

ไม่มีความคิดเห็น: