วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ดิ่งทะลุสะดือโลก "Journey To The Center Of The Earth"

______ผมไม่ค่อยแน่ใจว่าหนังเรื่องนี้เป็นฉบับโฮมเธียร์เตอร์แล้วจะเป็นภาพสามมิติทั้งหมดรึเปล่า? แต่ที่แน่ ๆ แผ่น DVD จะได้เห็นเป็นภาพสามมิติแน่นอน หนังมากับแนวการโปรโมทคึกคักมากเรื่องหนึ่งแทบจะชนกันเองกับ The Mummy : Tomb of the Dragon Emperor ที่จำเป็นต้องเอ่ยถึงเพราะเป็นผลงานแสดงนำของ แบรนดอนเฟรเซอร์ หล่อล่ำหน้าทะเล้นคนเดียวกันที่หันมาเอาดีกับหนัง Advanture ตลกได้อย่างลงตัวแล้วยังขายออกได้เรื่อย ๆ ในหนัง Journey to the Center of the Earth เองก็ให้เครดิตกับหนังสือนิยายไว้ตลอดเรื่อง ที่จริงแล้วเคยนำมาสร้างเป็นหนังใหญ่มาแล้วไม่ทราบเหมือนกันว่าโด่งดังแค่ไหนแต่คงจะไม่นำมารีเมคอีกแน่นอนเพราะเคยออกเป็นหนังซีรี่ย์ไปแล้วค่อนข้างเละเทะไม่สมบูรณ์เพราะถูกปรับให้เข้ากับยุคสมัยเกินไป ถ้าจะพูดถึงหนังแนววิทยาศาสตร์แล้วจะต้องได้ยินชื่อบุคคลอยู่สองชื่อแน่นอนคือ อัลเบิร์ตไอสไตน์ และ นักประพันธ์ชาวฝรั่งเศสนาม จูลส์เวิร์น (Jules Gabriel Verne) ที่ผลงานประพันธ์เป็นงานอมตะและแรงบันดาลใจให้นักประดิษฐ์นักวิทยาศาสตร์มากมายทั่วโลกและเป็นต้นตำหรับหนังผจญภัยสนุกสนานหลาย ๆ เรื่องขออนุญาตเอ่ยเพราะหลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก เช่น 80วันรอบโลก , ใต้ทะเล 20,000 โยชน์ , ผจญภัย 50 สัปดาห์กลางเวหา , ขอนับอีกเรื่องนะ เจาะเวลาหาอดีตทั้ง 3 ภาค ที่เอ่ยถึงตลอดเรื่องยิ่งกว่าเรื่องไหน ๆ เสียอีก Journey to the Center of the Earth กล่าวถึงการผจญภัยแบบตกกระไดพลอยโจนของ อาหลานคู่หนึ่งที่กำลังตื่นเต้นกับปรากฏการณ์ที่นานทีปีหนจะเกิดขึ้น ประกอบกับเป็นการสานต่องานสำรวจของพี่ชาย นามว่า แม็กซ์ ที่หายสาปสูญไป เทรเวอร์แอนเดอร์สัน (แบรนดอนเฟรเซอร์)และหลานฌอน ต้องรีบออกไปสำรวจตามแรงสั่นสะเทือนทีเพิ่งค้นพบ ตามแกนโลก จนได้พาสาวสวยทายาทนักวิทยาศาสตร์และนักสำรวจอีกคนตกกระไดพลอยปล่องภูเขาไฟไปด้วยกัน หนังออกจะเน้นภาพตื่นตาตื่นใจของนักผจญภัยมือใหม่ทั้งสาม โดยถ่ายทำในแบบสตูดิโอภาพสีสดใสตื่นเต้นตระการตาแบบไม่ใช่ฉากใหญ่ทุ่มทุนมหาศาลตามปกติอย่างที่ควรจะเป็น หนังจึงเป็นแค่งานโปรเจ็คเล็กๆ เพื่อไม่ให้โรงหนังประเภทสามมิติต้องเหงาตบยุงอยู่ทุกวัน มีผลงานส่งมาฉายให้ดูเป็นครั้งคราว ซึ่งล่าสุดมันก็นานมาแล้วกับหนัง The Pola Expresses ซึ่งไม่ใช่ระบบสามมิติ ถ้าจะให้เป็นสามมิติก็ต้อง Spy Kid 3 D (เน้น 3D ทั้งเรื่องแต่คุณภาพไม่ใช่ระดับ I MAX ) ซึ่งฉายไปนานแล้ว หลาย ๆ คนที้พูดถึงหนังเรื่องนี้มักจะบอกว่าหนังเรื่องนี้ไม่สนุก มีบ้างที่บอกว่าสนุกดี กันก็แค่สนุกดีไม่ได้สนุกมาก สำหรับผมสนุกดีเหมือนกันแต่มีหลายอย่างที่ไม่สมเหตุผลหรือว่าไปมันก็ทั้งเรื่องนั่นแหล่ะไม่มีอะไรสมเหตุผลเลยซักเท่าไร หนังยังอุตส่าห์เอาไดโนเสาร์มาวิ่งไล่กินคนโผล่ไว้เผื่อโปรโมทให้ดูมัน ๆ แถมต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงกอลิล่าที่พอดูสนุกขึ้นมาหน่อย ตกลงแล้วหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังคาดหวังว่าจะเป็นหนังฟอร์มใหญ่โตอะไรเป็นแค่หนังผจญภัยสนุก ๆ ดูแก้เซ็ง ที่ไม่ใช่เกรดบี เพียงแต่ถ่ายทำในระบบ 3 D ไว้มีให้ดูเล่น ๆ ครับ

ไม่มีความคิดเห็น: