วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2551

สามก๊ก โจโฉ แตกทัพเรือ “The Battle of Red Cliff”

______ก่อนโอลิมปิกปักกิ่งเกมส์จะเริ่มจีนแผ่นดินใหญ่ต้องแสดงความพร้อมประกาศความยิ่งใหญ่และต่อสู้กับอุปสรรคด้านการต่างประเทศที่เข้ามารุมเร้ามากมาย ด้านวงการบันเทิงผู้กำกับชาวจีน”จางอี้โหมว”ได้รับเกียรติให้กำกับเวทีสนามเปิดพิธีกีฬาฯ อย่างเป็นทางการแทนที่ “สตีเว่นสปีลเบอร์ก” ดูเหมือนว่ายังมีผู้กำกับชาวจีนอีกคนที่อยากจะร่วมประกาศความยิ่งใหญ่ของประเทศจีนได้ร่วมกันสร้างหนังตำนานสงครามจีน “สามก๊ก” โดยจอห์นวู ได้รับความไว้วางใจให้กำกับหนังจีนเรื่องนี้โดยโปรดิวเซอร์ชาวเอเชียหลายชาติหลายสิบคนร่วมแรงช่วยกันทำงานนี้ ถือเป็นประวัติศาสตร์ผลงานของชาวเอเชียเรื่องหนึ่งทีเดียว ตามปกติเราคงนึกหน้าจอห์นวูในแบบหนังแอคชั่นถือปืนท่ายิงโครตรเท่ห์แต่ตอนนี้ต้องขอรับใช้สร้างผลงานให้ชาติกำเนิดตนเองหันมาจับหอกดาบแทนซึ่งดูแล้วก็เข้าท่าดี
______หนังถูกแบ่งออกเพราะความยืดยาวทำให้ดูไม่จบภายในสองชั่วโมง ตอนโปรโมทหนังส่วนใหญ่คนดูไม่รู้ว่ามามุขนี้เพียงแค่ดูหนังสนุก ๆ ไปเรื่อย ๆ แล้วรู้สึกถึงความยืดเยื้อโดยแทบไม่จำเป็น ก็พอเดาออกตั้งแต่ต้นเรื่องเปิดตัวความชั่วร้ายของโจโฉแบบนิ่ม ๆ อยากรู้นักว่าใครเป็นคนแคสติ้งให้ จางเฟิงอี้มาเล่นเป็นโจโฉ ใบหน้าเปื้อนยิ้มดูไม่ดุพอสายตาก็ไม่ล่อกแล่กแบบคนขี้ระแวง ส่วนดาราคนอื่นถือว่าผ่านหมด ที่จะต้องติก็เป็นเรื่องเล็กน้อย ที่เนื้อเรื่องไม่ตรงกับหนังสือที่ปราชญ์แต่งไว้เลย เนื้อเรื่องในหนังให้ตัวละครอยู่รวมกันในเรื่องมีบทบาทครบซึ่งความจริงมีเพียง จูกัดขงเบ้งผู้มีไหวพริบแพรวพราววางผนให้ตนเองเท่านั้นอยู่ด้วยกับซุนกวนและในเรื่องแทบไม่ได้ใช้ความสามารถอะไรให้คนดูได้ประจักษ์เลยเป็นเพียงตัวละครที่ให้เรื่องดำเนินไปเฉย ๆ เท่านั้นสำหรับการเริ่มเรื่องแบบนี้ผมขอยกให้”ทาเคชิ”ผู้นี้เป็นขงเบ้งที่อาภัพสุดได้ขายแค่หน้าตา แต่ก็ไม่อยากมองว่าเป็นเนื้อเรื่องที่วิบัติเพราะการดัดแปลงเนื้อหาให้เป็นหนังนั้นถือเป็นเรื่องธรรมดา อย่างที่เคยเห็นมาแล้วใน “Troy” มหากาพย์อีเลียดที่นำแสดงโดย แบรดพิทต์ ที่ให้ม้าไม้เข้าเมืองทรอยก่อนอะคิลลีสตายซึ่งที่จริงเขาต้องตายก่อน นิยายโบราณอย่างสามก๊กผมคิดว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จัก การจะหยิบมาสร้างหนังต้องทำให้ยิ่งใหญ่เน้นฉากสงครามใช้เล่ห์กลซับซ้อนอย่างที่อ่านมาเรารู้เรื่องหมดหนังก็เลยเปลี่ยนแปลงตัดที่ไม่จำเป็นกับหนังออกเช่น วาทศิลป์ของขงเบ้งที่เอาชนะเหล่าบัฒฑิตอาคันตุกะนับสิบคนของซุนกวน ฉากเล่าปี่โยนเอาเต๊าทิ้งเพื่อเอาใจจูล่ง ฉากเตียวหุยคำรามขู่จนนายกองโจโฉหัวใจวายตกม้าตาย เป็นต้น เหล่านี้เป็นเสน่ห์ตำนานสามก๊กที่แฟนพันธุ์แท้เล่าขานพูดคุยกันเสมอเวอร์ชั่นของจอห์นวูก็ไม่ถือว่าสมบูรณ์แบบเท่าที่ควรจะเป็น ผมเพียงแต่ยอมรับความพิถีพิถันแนวศิลป์ในการถ่ายทำเน้นสีหน้าผู้แสดงที่ดูเหมือนหนังสือมีชีวิต กราฟฟิคคอมพิวเตอร์ที่เนียนมั่งไม่เนียนมั่งแต่ก็พอจะสู้กับฝรั่งได้แล้วเพราะถูกมองว่าเป็นหนังระดับเอซียจะเทียบหนังไตรภาคอย่าง “ลอร์ดออฟเดอะริง”หรือ “แมทริกซ์” คงไม่ได้ โปรดติดตามตอนต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น: