วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2551

Sex and the City The Movie


______ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่แฟนตัวยงของซีรี่เรื่องนี้เพียงแต่ขอชม Sex and the city ในภาคจอแก้ว สำหรับสาวไทยหรือหนุ่มไทยก็ไม่ได้ฮือฮาตามกระแสหนังเท่าไรเรียกได้ว่า Sex and the city เงียบสนิทในบ้านเรา แต่เป็นที่น่าแปลกที่ในกลุ่มคนดูฉบับโฮมวีดีโอนั้นมาแรงขนาดแย่งกันเช่าและแย่งกันซื้อแผ่นทีเดียว หนังเรื่องนี้ผมยอมรับว่าตรงกับคำพูดสี่สาวในเรื่องที่ต่างคนต่างเป็นกระจกมองซึ่งกันและกัน ไม่มีความลับ มีแต่ความจริงใจออกจะส่วนตัวมาก ๆ สำหรับผู้หญิงจนค่านิยมบางอย่างของสาวใหญ่ซาแมนธ่าที่เปลี่ยนคู่นอนได้ไม่ซ้ำหน้าไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะเอาอย่างแต่ก็เชื่อเหอะ! คนแบบนี้ย่อมมีอยู่จริงแน่นอนรับ ๆ ไว้ดูเล่นแล้วกัน เพราะสามสาวที่เหลือนั่นตัวประกอบ เรื่องหลักก็จะเป็นของสาวคอลัมภ์นิสต์ แครี่แบรดชอว์ (ซาร่าห์เจสซิก้าปาร์กเกอร) เธอออกจะพริ้งพราวเฉิดฉายโดดเด่นที่สุดในกลุ่ม สำหรับความรักที่เธอตามหามานานจนต้องเจออุปสรรคใหญ่ “การแต่งงาน” เธอและหนุ่มบิ๊กจะต้องฝ่าฟันวันแห่งความฝันนี้ไปให้ได้ มันยากที่สุดสำหรับการลงเอยด้วยการแต่งงาน ปัจจุบันนี้เห็นได้ชัดแล้วว่านิยายประเภท “กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...เจ้าชายและเจ้าหญิงก็แต่งงานกันอย่างมีความสุข” มันไม่ใช่นิยายที่ผุ้หญิงอายุหลักสามสิบจะฟังแล้วเคลิ้มฝัน ชีวิตจริงใจสังคมใหญ่ที่แวดล้อมด้วยสิ่งซึ่งอำนวยความสะดวกดีแล้ว Sex and the city กำลังบอกผมว่า ชีวิตจริงสิ่งสำคัญที่สุดคือ “ตัวตนของตนเอง” สาวแครี่ที่เคยตามหาฝันด้วยเท้าเปล่าติดดินมาก่อน จนกระทั่งเธอเป็นสาวแบรนด์เนมพร่างพราวด้วยแฟชั่นแท้ไม่เทียมไม่เคยซ้ำยี่ห้อและไม่ตกยุค เธอไม่ธรรมดา รวมทั้งตัวตนของเธอก็ไม่ใช่ของเธอ

______กระจกทั้งสี่บาน (สี่สาว) มองมิติต่างมุมไปตามชีวิตความเป็นอยุ่ ชาร์ล็อตแต่งงานมีความสุขเธอกำลังจะตั้งท้องได้สำเร็จ มิแนด้ามีปัญหากับสตีฟเพราะเรื่องบนเตียงแบบผัวเดียวเมียเดียว นั้นมันรุมเร้าให้กันจนกระจกอาจจะหมองมัวไม่ชัดเจนมองไม่เห็นความจริง สุดท้ายแล้วเมื่อค้นพบ “ตัวตน” ไม่ว่าผู้หญิงเท้าติดดินธรรมดา หรือ สาวส้นสุงไฮโซ ก็จะมีความสุข Sex and the city เป็นหนังที่จบซีรี่ย์ได้อย่างงดงาม เพียงแต่มันคงจะน่าเบื่อไปหน่อยที่จะยิงกลุ่มเป้าหมายได้ถูกทาง มันน่าจะเหมาะกับสาวแม่บ้านที่นั่งทึนทึกอยู่กับบ้านแล้วดูซีรี่ย์เรื่องนี้อย่างเป็นวรรคเป็นเวร คล้าย ๆ กับอ่าน เสพสมบ่มิสม ทางจอทีวี ผมคนหนึ่งล่ะที่พอดูหนังจบแล้วอยากให้มีซีรี่ย์นี้ต่อไปแม้ไม่เคยดุมาก่อน แต่คิดว่ามันอาจจะเป็นของจำเป็นก็ได้สำหรับคนที่มีชีวิตคุ่จะนั่งดูด้วยกันแล้วเข้าใจกันทุกวัน


ไม่มีความคิดเห็น: