วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2551

เฟรนด์ชิพ เธอกับฉัน "FriendShip


______ดูจากปกหนังแล้วมีความรู้สึกถึงความน่าสนุกสนาน อบอุ่นชวนทะเล้นให้ยิ้มออกถึงความหลังครั้งสมัยเรียน เมื่อเปิดกล่องออกมาดูกลับให้ความรู้สึกที่ตรงกันข้าม หนังมีดารามากฝีมือลายคนแสดงแต่กลับแสดงกันอย่างลวก ๆ ไม่จริงจังหนังไม่สมจริงไม่อบอุ่นไม่สนุกสนานแถมตอนจบชวนหดหู่แม้จะเคยได้ยินว่าหนังจะหักมุมในตอนจบ ไม่แฮปปี้เอ็นดิ้ง แค่เจอนางเอกนอนรอความตาย แต่จบแบบนี้ไม่ใกล้เคียงคำว่าหักมุมเลยไร้ชั้นเชิงสิ้นดี ถ้าโลกนี้มีสินค้าปลอมปนจำหน่าย ผมจะยกตัวอย่างว่าหนังเรื่องนี้ก็ของปลอมหลอกขาย โดยเฉพาะนายแจ็คที่ร่วมแสดงทำให้นึกถึงหนังอย่าง “แฟนฉัน” หรือเมื่อเร็ว ๆ นี้ “ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น” ที่เราจะย้อนหลังเปิดลิ้นชักหยิบของเก่า ๆ มาดูกัน หนังเรื่องนี้คงเป็นลิ้นชักในบ้านร้างเก่า ๆ การดำเนินเรื่องก็มีแต่ด้านมืดของวัยรุ่น กินเหล้า ทะเลาะทุบตี เที่ยวโสเภณี แม้หนังจะมีฉากร่วมแรงกันสร้างบ้านหรือกิจกรรมเพื่อชนบท ก็ไม่ช่วยให้หนังดี ความน่าผิดหวังหนักกว่า หนัง “วัยอลวน ตั้มโอ๋ รีเทิร์น” ยุคใหม่ที่พยายามจะสื่อเรื่องรักใส ๆ หัวใจจริงจัง หนังสื่อความรักวัยรุ่นที่ถูกกลืนไปในยุคสมัยใหม่วัยรุ่นชิงสุกก่อนห่ามจนรายได้หนังแทบเหลวจนหนังต้องเงียบหายไปเฉย ๆ “เฟรนด์ชิพ” ถือเป็นบทเรียนหนึ่งที่ชัดเจนว่าจะทำหนังวัยรุ่นคงต้องระวัง เป็นหนังมีเนื้อหาเชย ๆ ผิดยุคผิดสมัยมองไม่เห็นสิ่งที่หนังจะสื่อออกมากว่ามันเกี่ยวกับอะไรกันแน่ จนกระทั่งหนังจบก็มีแต่ความหดหู่ไม่ค่อยจะรู้สึกบันเทิง เพราะเห็นแต่ด้านมืดของวัยรุ่นมานำเสนอตลอดเรื่องจนกระทั่งจบ หนังจงใจจะให้ดังขนาดขนดาราหน้าใหม่ “มาริโอ เมาเร่อ” ซึ่งน่าจะมีแรงดึงดูดได้ดี แต่ ถึงจะดังขนาดไหนแฟนคลับ “รักแห่งสยาม” ก็มาช่วยอุดหนุน “เฟรนด์ชิพ” เลย ที่ผมเห็นกระแสของหนังเรื่องนี้ก็จะมีแต่ เพลง “ใจนักเลง” ของพี่อ๊อฟพงษ์พัฒน์ที่กลับมาฮิททั่วบ้านทั่วเมือง หนังเฟรนด์ชิพผมยกให้เป็นหนังเรื่องหนึ่งที่ใช้เพลงประกอบเปลืองที่สุดเท่าที่เคยนับมาเลยทีเดียว จะสับให้เละอีกนิดก็ต้องบอกว่า เพลงประกอบล้วนเก่าขนาดหาซื้อได้ตามแผงขายแผ่นลดราคาพิเศษได้ทั่วไป พอเถอะยิ่งเขียนยิ่งเพิ่มข้อกล่าวหาซะไม่มีดี

ไม่มีความคิดเห็น: