วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2551

หลอน...ไม่หลับ "The Machinist"

______ดาราเจ้าบทบาทอีกคนที่น่าจะต้องเขียนถึง “คริสเตียนเบล” จากเด็กอังกฤษจนกระทั่งโตเหนุ่ม มีผลงานการแสดงที่ทำให้ผมต้องติดตามมาตลอด ก่อนหน้านี้บทที่หนูน้อยแสดงนำในหนังของสตีเวนสปีลเบอร์ก “Empire of the sun” ทำให้ผมยอมรับในความสามารถการแสดงแบบทุ่มสุดตัวทั้งเลอะเทอะโคลนอดอยากจนผอมซูบเผชิญเรื่องร้าย ๆ จากการเป็นเชลยของกองทัพทหารญี่ปุ่นในเมืองจีน ต่อมาผมก็ได้ยินว่า The Machinist เจ้าหนุ่มคริสเตียนเบลคนเดียวกันนี้ทุ่มสุดตัวอีกครั้งลงทุนลดน้ำหนักชนิดเห็นซี่โครงจนตัวงอเพื่อเข้าฉากหนังเล็ก ๆ ที่ไม่ได้หวังจะทำรายได้ฮือฮา ต้องลองชมเองผมถึงกับอึ้งในควมเป็นคริสเตียนเบล เขาทำสถิติยุดยอดฮอลลีวู้ดดาราที่ยอมลดน้ำหนักตัวชนิดจนผอมซูบจนดูเป็นผีตายซาก โดยไม่ได้ใช้เทคนิคเมกอัพหรือสแตนด์อินใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนตัวเนื้อเรื่องเองก็ไม่ได้ขี้เหร่ยังมีความน่าสนใจพอสมควร The Machinist เป็นหนังทริลเลอร์ลึกลับซ่อนปม เกี่ยวกับ “เทรเวอร์” ชายคนหนึ่งที่นอนไม่หลับจนสุขภาพร่างกายผอมโซ แล้วต้องมาเจอกับเรื่องร้าย ๆ ในการร่วมงานในโรงงานเครื่องจักร ชีวิตประจำวันอันแสนน่าเบื่อเขาต้องไปซดกาแฟคุยกับสาวเสริฟม่ายลูกติดคนหนึ่งทุกคืนในเวลาเดิมเสมอ เขามีเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวคือโสเภณีสาวรับบทโดย เจนนิเฟอร์เจสันลีก์ ชีวิตของเทรเวอร์ดูเหมือนจะไม่ธรรมดาราวกับว่ามีอุบัติกรรมบางอย่างตามหลอกหลอนเขาจนกระทั่งตัวเขาเองได้พบกับ ทักเกอร์ ร่างสมติที่กลับกลายเป็นจินตนาการที่เขาเสริมขึ้นมาในชีวิต ทุกอย่างที่รุมเร้าชายร่างผอมโซที่น่าสมเพชผู้นี้ช่างน่าเห็นใจและชวนลุ้นระทึกให้ต้องตามล่าหาความจริงว่า แท้จริงแล้ว ทักเกอร์ เป็นผีร้ายตนไหนกันที่มาตามหลอกหลอนให้ชีวิตของเทรเวอร์ต้องแย่ลงไปกว่าที่เป็นอยู่อีก ช่วงท้ายของเรื่องเป็นบทสรุปชวนขนลุกขนฟอง กับบาปกรรมอันแท้จริงที่หนุ่มเทรเวอร์ต้องประสาทหลอนอดหลับอดนอนสร้างจินตนาการในภวังค์ขณะที่ยังตื่นอยู่ มันชัดเจนยิ่งกว่า อหิงสา จิ๊กโก๋มีกรรม เพียงแค่เทรเวอร์ยอมมอบตัวเองเดินเข้าคุกเสียดี ๆ เขาก็จะได้นอนหลับพักได้เต็มอิ่มซักคืนเมื่อตื่นขึ้นจะได้เผชิญโลกความจริงที่ได้สำนึกบาปที่ตนกระทำ แหม! หากเรื่องนี้เป็นจริงได้ก็ดี สมัยนี้คนมันช่างทำบาปทำกรรมเป็นว่าเล่น ชาติต่อมา เจ้าหนุ่มคริสเตียนเบล ก็ยังคงต้องใช้กรรมกลับมากินได้นอนหลับเพาะกล้ามเป็นมัดอย่างรวดเร็วแล้วหันมาปราบปรามเหล่าร้ายในร่าง “อัศวินแห่งรัตติกาล” ไว้ค่อยนำเสนอต่อไปครับ

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ดีคะ