วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2551

นายและนางคู่พิฆาต "Mr. & Mrs. Smith"


______มีข่าวแว่ว ๆ อย่างสะท้านโลกว่าดาราคู่ขวัญพระนางของเรื่องได้พบรักกันจนต้องแก้ข่าวไปมากว่าหนังจะได้ฉายในที่สุดก็อยู่กินมีลูกด้วยกันอย่างไม่ค่อยจะเปิดเผยต่อสาธารณชนแต่ก็มีผลงานหนังให้ดูติดต่อกันตลอดทั้งปี และเป็นอีกตำนานหนึ่งของคู่ขวัญแห่งฮอลลีวูดเพราะทั้งคู่กลายเป็นคู่ชีวิตจริง แต่เดิมหนังอย่าง Bonnie And Clyde(1967)ถือเป็นหนังคู่ขวัญที่ยกสุดยอดดาราคู่พระนางมาประชันกันในยุคก่อน Mr. & Mrs. Smith (2005)สำหรับผมถือว่าเทียบได้ในเรื่องนี้ ว่ากันถึงหนังเรื่องนี้เป็นหนังครอบครัวสองผัวเมียนักฆ่าที่ปกปิดอาชีพตัวเองซึ่งกันและกันมาตลอดตั้งแต่แต่งงานจนกระทั่งความแตกเพราะความเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของทั้งคู่ทำให้เสี่ยงต่อองค์กรทั้งสองจึงต้องมาห้ำหั่นกันเองเพราะความไม่ไว้วางใจกัน ผมมองว่าเป็นหนังแอ็คชั่นชั้นดีเกรดเอทีเดียวลงทุนสูงเนื้อหาเข้าใจง่ายไม่ซับซ้อนตื่นเต้นหวาดเสียวยิงกันกระสุนพล่านเลือดสาดแต่ยังทำให้อารมณ์ปกติไม่ได้ขายความรุนแรงดูอย่างฉากยิงกระหน่ำกันจะมีเพลงเพราะ ๆ มาประกอบทำให้ดูคล้ายหนังจอห์นวูบ้างเหมือนกัน มีบทสนทนาปะทะคารมเชือดเฉือนประสาผัวเมียฟังเหมือนหนังเขย่าขวัญแต่เพราะรู้แนวของหนังจึงทำให้ดูขำมากกว่า ชื่อสมิทธ์ก็แสดงออกถึงความเป็นยอดฝีมือ ชื่อจอห์นและเจนก็หมายถึงหนุ่มสาวนิรนาม (จอห์นโดว์และเจนโดว์) แค่ชื่อก็แสดงออกถึงการปกปิด มันก็ไม่ต่างกับสังคมปัจจุบันแบบอุปมาอุปไมยการปกปิดซึ่งกันและกันไม่หันหน้าเข้าหากันมีความเป็นไปได้ถึงขั้นแต่งงานกันก่อนเพราะความรักความหลงส่วนสตินั้นมาทีหลัง ขึ้นอยู่กับว่าจะพยายามเข้าหากันเพื่อเคลียร์แล้วเริ่มต้นดำเนินชีวิตคู่กันต่อรึเปล่า ความเป็น แบรดพิทต์และแองเจลลิน่าโจลี่ ที่มักแสดงออกถึงความเป็นคนแปลกแยกไม่ใช่ดาราบ้าเห่อและก็ปรารถนาให้คนทั้งโลกเข้าใจกันโดยเฉพาะสถาบันที่เล็กที่สุดอย่างสถาบันครอบครัว หนังแสดงออกถึงความที่สามีภรรยาในสังคมปัจจุบันน่าจะต้องปรึกษาจิตแพทย์และระบายความในใจออกมาบ้างก็มักจะต้องเพิ่มฉากนี้ขึ้นมา นัยที่แฝงนั้นยังมีอีกกว้างแต่ผมคิดว่าคนที่ดูหนังบ่อย ๆ น่าจะเข้าใจได้ดีเพราะหนังค่อนข้างจะส่วนตัวสำหรับเขาทั้งสองที่จะบ่งบอกว่าเกลียดความรุนแรงแค่ไหน (และยังรักเด็ก ๆ อีกด้วย)

ไม่มีความคิดเห็น: