วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ยกหัวใจให้ยัยตัวร้าย "My Sassy Girl"

______หนังรีเมกที่รอคอยมานานมากจนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์จนได้ดูก็รู้สึกถึงความไม่สมบูรณ์ของหนังรสชาติเอเชียที่แทบไม่ได้ดัดแปลงอะไรเลยในแบบวัฒนธรรมตะวันตก ทำให้รู้สึกว่ามันดัดจริตซะมากกว่าดัดแปลง ก็แม่คุณ ยานน์ ซามูอัลล่อก๊อปปี้มาซะเกลี้ยงอย่างนั้น สำหรับผมแล้ว my sassy girl ฉบับเกาหลีดั้งเดิมที่ตัวพระเอกหน้าตามู่ทู่นั้นช่างเหมาะสมกว่าแบบหล่อเหลาดูดีอย่าง ชาร์ลี (เจซซี่แบรดฟอร์ด) แล้วดูชาร์ลีเองก็ไม่ค่อยจะน่าจะดูเหมือนคนถูกทรมานซักเท่าไร หนังออกไปแนวโรแมนติกอาร์ตมาก ๆ นางเอก จอร์แดน (เอไลชา คัธเบิร์ต) ก็หน้าหวานจับใจเกินไปถ้าจะให้ดีต้องแสดงสีหน้าผีเข้าผีออกให้ชัดเจนกว่านี้ด้วยอีกคน แค่เริ่มก็ติเอาซะก่อนแล้ว my sassy girl ฉบับใหม่ก็ถูกจัดให้เป็นหนังไม่ทำรายได้เรื่องหนึ่งของปี อาจจะเป็นเพราะไม่ได้ตั้งความหวังอะไรแค่เอาหนังมาลองเชิงทำให้ฝรั่งงงเล่น ๆ กับมุขแสบ ๆ คัน ๆ ของผู้หญิงที่ทำตัวขี้เมา เอะอะโวยวาย หัวใจนักเลงไม่เกรงใจพอใจก็ด่าท่าทางทนไม้ทนมือ ที่จะทดสอบคนรักที่พบกันโดยบังเอิญก็ดันปิ๊งเหมือนทดลองงาน กับบททดสอบมากมายตลอดเรื่อง แทบไม่ต้องสาธยายเพราะหลายคนคงดูหนังต้นฉบับถ้วนหน้าแล้ว

_______ส่วนที่ผมนึกถึงตลอดหลังจากเคยดูฉบับเกาหลี คือ แรงบันดาลใจของหนังน่าจะมีมาตั้งแต่สมัย Great Expectations และต้องเป็นเวอร์ชั่นเก่าก่อน กวินเน็ทพัลล์โทรว์แสดงคู่กับอีธานฮอว์ก ที่กล่าวถึงผู้หญิงที่ผิดหวังในรักโดนทอดทิ้งจนเกิดความแค้นผู้ชายบรรจงเสี้ยมสอนหลานสาวคนเดียวให้รู้จักวิธีหว่านเสน่ห์ให้ผู้ชายหลงรักแล้วทอดทิ้งจนหัวใจแตกสลายเป็นความสามารถพิเศษติดตัว หนังอาจจะเก่าแต่เนื้อหายังไม่ล้าสมัยเพราะตลอดเวลาหลายปีที่ผู้หญิงอยากจะเป็นช้างเท้าหน้าบ้าง อยากมีอำนาจเหนือผู้ชาย ใช้เสน่ห์แบบไม่ต้องร้อยเล่มเกวียนกลับกันใช้ความก๋ากั่นของตัวเองกระเซ้าเย้าแหย่ผู้ชายแบบไม่แคร์

______แน่นอนผู้ชายที่เจอกับผู้หญิงธรรมดาแต่ไม่ง้อคนก็ต้องรู้สึกติดใจยอมสยบทั้งกายและใจโดยไม่รู้ตัว นอกจากหนังจะดูเพลิน ๆ (ไม่อยากใช้คำว่าดูสนุก) มันก็ต้องสอดไส้เนื้อหาที่จะสื่อสารถึงผู้ชายที่สมองคิดแต่เรื่องฟันแล้วทิ้งไม่ได้ใส่ใจในรักแท้ มองหาแต่ผู้หญิงแค่ที่เป็นผู้หญิงก็พอ ใครบ้างจะนึกไปถึงก้นบึ้งของหัวใจที่มีรักแท้และยากจะหาชายใดมาทดแทน แต่ในเมื่อบททดสอบผ่านทุกข้อก็กลับกลายเป็นความเหมือนที่รุ้มเร้าจนกระทั่งเกิดความรู้สึก “ลืมคนรักเก่าไม่ได้” ตรงจุดนี้ผมขอให้คนดูทุกคนใส่ใจให้มาก ๆ “นั่นแหล่ะสาระของหนัง” โดยเฉพาะคำพูดที่ว่า “ชาตินี้ฉันจะรักเธอคนเดียวตลอดไป” มันจะทำร้ายจิตใจพอสมควรถ้าอนาคตกลับไม่ได้ลงเอยด้วยกัน
______ การถอนคำพูดสำหรับสาวอย่างจอร์แดน คนที่มีหัวใจเป็นเส้นตรงนั้นถอนยาก สุดท้ายก็ไม่น่าแปลกใจที่ทำไมฝรั่งไม่ค่อยปลื้มกับหนัง ก็เพราะคนสมัยนี้แค่อายุหลักสองจะหาได้เข้าใจรักแท้และยอมรับมันในรักแรกขนาดนี้ได้เหรอ อย่างนี้ต้องโทษ ยานน์ซามูอัล(ผู้กำกับ) ที่อาจจะทำหนังได้ขลุกขลิกเป็นน้ำไม่เป็นเนื้อจนคนดูไม่ปลื้มน้ำตาซึมตาม พวกฝรั่งนี่แข็งหรือเกาหลีหัวอ่อนกันแน่ไม่รู้สิ

ไม่มีความคิดเห็น: