วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2551

13 เกมสยอง “13 BELOVED”

______นี่ก็อาจจะเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยแท้ ๆ ที่บรรจงสรรสร้างงานภาพยนตร์ผลงานของคนไทยล้วน ๆ จนฮอลลีวู้ดมองเห็นว่าจะนำไปรีเมกเป็นหนังฟอร์มใหญ่(มั้ง)ให้ชาวมะกันดู สำหรับหนังเรื่องนี้ผมเชียร์ขาดใจเลยตั้งแต่งานประกาศผลรางวัลตุ๊กตาทองพระสุรัสวดีฯ แม้ไม่ได้มาแต่ก็ได้รางวัลเวทีอื่น หนังสิบสามเกมสยองมีที่มาจากหนังสือการ์ตูนที่สร้างสรรค์ผลงานโดยนักเขียนสมัครเล่นคนไทยที่อาจผันตัวเป็นมืออาชีพแล้วก็ได้ แนวของเรื่องสนุกลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนและลุ้นระทึกตามรสชาติอ่อนดีกรีหน่อยประสาคนไทย ที่ทีมงานและผู้กำกับมะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล เองก็หลงใหลคลั่งไคล้เนื้อหาในการ์ตูนจนอดไม่ได้ที่จะต้องทำโปรโมทใส่ในแผ่น DVD ไม่พอยังมีหนังโปรโมท “เกมที่สิบสองก่อนสิบสาม” มาฉายเรียกน้ำย่อยเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการภาพยนตร์ไทยที่ไม่เคยมีมาก่อน ก็ยังไม่จบ แท้จริงแล้วยังมีวีดีโอทัศนาจรของพวกเด็ก ๆ ตัวละครในเกมซึ่งสอดแทรกแถมมาอีก เนื้อเรื่องจะว่าไปมันก็คล้าย ๆ กับหนังไทยเรื่องหนึ่ง “ท้าฟ้าลิขิต” ที่เฮียดู๋ สัญญา คุณากร เคยแสดงไว้ว่าต้องทำภารกิจเพื่อช่วยชีวิตคนรัก แต่สิบสามเกมนั้นมันหนังสยองเกมที่จะเล่นจะต้องเลือก ทำหรือไม่ทำ เล่นหรือไม่เล่นถ้าเล่นแล้วไม่มีจบ จนครบเกมที่สิบสามจึงจะได้รับเงินรางวัลจำนวนมหาศาลไปครอง
______สิ่งที่เกมให้ทำก็เหมือนกับผู้ที่มาเล่น คอนโทรลเลอร์เป็นผู้เลือกคนเล่นเองส่วนแต่ละเกมช่างมีความต่อเนื่องที่เกือบจะสมบูรณ์อันนี้ต้องโทษคนแต่งเนื้อเรื่องที่อาจจะมือใหม่ไปหน่อยแต่ก็หัวคิดดี เกมก็ไม่ยากที่ให้ทำในสิ่งที่คนปกติเค้าไม่ทำกัน เช่น กินของสกปรก ทุบตีทำร้ายคน ช่วยคน หาของ ฯลฯ เหล่านี้อาจจะมีแรงบัลดาลใจมาจากด้านมืดในสมองของวัยรุ่นที่คิดแต่เรื่องรุนแรงแต่ก็นั่นแหล่ะ หนังเรื่องนี้โยนความผิดไปที่ “ท่านผู้ชม” ซึ่งกำลังแสดงเรตตี้งติดตามเกมทางอินเตอร์เน็ต เป็นสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าหนังไทยจะเอามุขนี้มาเล่น แล้วก็ถ่ายทอดผ่านฝีมือมะเดี่ยวซึ่งผมยอมรับว่าเยี่ยม ผู้กำกับดูเหมือนจะถูกใจหนังเป็นพิเศษมีความพิถีพิถันขนาดรายละเอียดเล็กน้อยก็ไม่ให้พลาดถ้าคนดูสังเกตให้ดี สีสันในแต่ละซีน ตัวเลขที่เข้าซีนนั้นจะมีเลขสิบสามหรือบวกลบกันแล้วได้จำนวนสิบสามพอดี หนังจบก็จะมีซีนที่ตัดออกเยอะมากมาให้ดูกันจนคุ้มค่าอย่างน่าเสียดาย (เอ๊ะ..อ๋อเพราะไม่ได้ฉายให้หมด) ยังไงก็ตามหนังก็ไม่ได้จบอย่างแฮปปี้เอ็นดิ้งแต่จบได้ร้ายตามแนวของหนัง เพื่อจะได้มีภาคต่อเป็นเกมที่สิบสี่ ได้ยินว่าดารานำแสดงยังคงเป็นชุดเดิม ที่มี พี่ตั้วศรันยู แสดงนำเพื่อไขปริศนาลี้ลับให้ได้ ตอนแรกผมก็รู้สึกว่าตำรวจไทยอย่างพี่ตั้วในเรื่องไม่ค่อยมีน้ำยาตามเกมไม่ทันเอาซะเลยจังหวะลุ้นค่อนข้างหลวม แต่ที่แท้เป็นความตั้งใจกั๊กไว้เป็นตัวเอกในภาคต่อนี้เอง แต่ในฉบับฮอลลีวู้ดคงดูกระฉับกระเฉงกว่านี้ แต่ผมก็ตั้งความหวังนะว่าเกมที่สิบสี่ต่อไปดีกรีความลุ้นละทึกจะไม่หลวมหย่อน ก็สิบสามเกมนี้มัวแต่จ้องจับ ภูชิต (น้อย วงพรู) จนลืมดูภาพรวมของหนัง นี่จะไม่เรียกว่าหลงกลมะเดี่ยวแล้วจะเรียกว่าอะไร?

ไม่มีความคิดเห็น: