วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ดิ เอ็กซ์ ไฟล์ ความจริงที่ต้องเชื่อ "The X-Files : I Want to Believe"

______กลับมาอีกครั้งหลังจากรอคอยมาหลายปีคราวนี้ไม่ต้องทนฟังเสียงพี่ตั้วพากย์นายฟ็อกซ์โมเดอร์ (เดวิดดูคอฟนี่ย์) เพราะพากย์ครั้งนั้นเสียงไม่เข้ากับใบหน้าเอาเสียเลย มีข่าวมาก่อนแล้วว่านักแสดงนำทั้งสองก็รวม ดาน่าสกัลลี่ (จิลเลียนแอนเดอร์สัน) ต้องไปเบบี้เฟซเพื่อกลับมารับบทนี้กันใหม่ (น่าจะเป็นข่าวล้อกันเล่นมากกว่าแต่ก็เห็นริ้วรอยแห่งวัยอยู่เหมือนกัน) ความห่างของหนังภาคแรกในปี 1998 กับภาคสองที่ไม่ได้ต่อติดกันเลยนั้นยาวนานเหลือเชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งซีรี่ย์ยอดนิยมเรื่องนี้เริ่มตั้งแต่ปี 1993 นั้นสุดฮอตติดต่อกันปีต่อปีเรียกว่าเป็นสุดยอดความนิยมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ก็ต้องห่างหายไปเมื่อซีซั่นหลัง ๆ ได้เปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องให้พระเอกของเรา ฟ็อกซ์โมเดอร์หายตัวไปอย่างลึกลับแล้วมีการเปลี่ยนตัวแสดงนำ "โรเบิร์ตแพตทริก" ดำเนินเรื่องคู่กับจิลเลียน นั่นอาจจะเป็นสาเหตุของการเสื่อมความนิยมของซีรี่ย์ที่เคยโด่งดังไป The X-Files: I Want to Believe ชื่อเรื่องนั้นชวนให้น่าดูมากโดยเฉพาะความเป็นหนังสองแง่สองง่ามกับความลึกลับที่เกิดขึ้นในโลกนี้หรือกระทั่งของจักรวาลนี้ (อาจจะเกินไป) ดูจากชื่อเรื่องแล้วน่าจะต้องเกี่ยวข้องกันกับภาคหนึ่งแน่ ๆ หลังจากดูไปได้ซักสิบนาทีก็มั่นใจเลยว่าไม่เกี่ยวข้องกันเลยยิ่งไปกว่านั้นแทบจะไม่น่าจะเป็นหนังใหญ่ได้เลยน่ะจะเป็นแค่ซี่รี่ย์ตอนหนึ่งเท่านั้น ประเด็นของหนังมีเพียงประเด็นเล็ก ๆ กับความเชื่อในพลังจิตที่มาจากอดีตสาธุคุณนายหนึ่งที่กำลังถูกจองจำโดยไร้พันธนาการเพียงแต่กักบริเวณให้อยู่ในสถานที่ซึ่งรัฐกำหนดไว้ ท่านสาธุคุณโจ โจเซฟคริสแมน (บิลลี่คอนนอลลี่) มีภาพนิมิตเกี่ยวกับเหตุการณ์ฆาตกรรม ลักพาตัวหรือค้นหาศพผู้เสียชีวิตโดยหาตำแหน่งที่เกิดขึ้นให้กับทาง FBI ได้แต่ก็ยังไม่ได้รับความเชื่อถือนักเพราะภูมิหลังที่เคยกระทำชำเราลูกศิษย์วัดมาก่อนทำให้เป็นที่รังเกียจของเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะนักสืบสกัลลี่ ขณะเดียวกันก็ต้องขอความช่วยเหลือจาก ฟ็อกซ์โมเดอร์ อดีตเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการในเรื่องเหลือเชื่อในการตัดสินความน่าเชื่อถือของสาธุคุณโจ การลักพาตัวและเหตุฆาตกรรมยังคงดำเนินไปเรื่อยการสืบสวนก็คืบหน้าด้วยภาพนิมิตจนทำให้ตามคนร้ายทัน จนมาถึงตอนท้ายของหนังที่มีการเชื่อมโยงการเกี่ยวของภาพนิมิตมาจากอดีตเด็กที่เคยถูกล่วงละเมิดมาก่อน ทำให้เกิดข้อคิดว่าภาพนิมิตนั้นน่าจะมาจากพรที่พระเจ้ามอบให้หรือบาปที่ค้างคากันแน่? สำหรับผมแล้วหนังเรื่องนี้ ขอร้องเถอะ "ช่วยเปลี่ยนชื่อเรื่องให้เป็นเรื่องอื่นที่ไม่ใช่ The X-Files เสียทีเถอะ คนดูอุตส่าห์เฝ้ารอหนังใหญ่เรื่องนี้มานานยิ่งโดยเฉพาะตอนท้ายของภาคหนึ่งมียานบินขนาดใหญ่มาเข้าฉากบินหนีไปนอกโลกด้วยแล้วยิ่งทำให้อยากรู้ความเป็นไปในภาคสอง นักสืบสกัลลี่ที่โดนเอเลี่ยนจับตัวไปเข้าแคปซูลจนพระเอกไปช่วยออกมาได้จะมีผลอะไรกับเธอบ้าง? แต่แล้วหนัง The X-Files: I Want to Believe ก็สร้างความผิดหวังเต็ม ๆ ที่น่าจะกลายเป็นแค่หนังฆาตกรรมเกรดบีหรือเกรดดีด้วยซ้ำ ไม่ได้สร้างความฉงนแบบแปลกใหม่ให้เลย แล้วโครงการนี้รู้สึกว่าหนังใหญ่ในบ้านเราจะไม่ได้ฉายด้วยสิหรือฉายเพียงไม่กี่โรงก็ไม่แน่ใจ ผมชักจะแน่ใจแล้วว่า The X-Files คงเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดโดยที่ไม่ทันตั้งตัวหรือจะเป็นแผนลับอะไรซักอย่างที่จะลองเปลี่ยนตัวแสดงแทนแล้วเอา The X-Files ไปยำเละเป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่หาดาราหน้าใหม่สด ๆ ซิง ๆ มาแสดง ไม่แน่นะไอเดียนี้อาจจะเป็นจริงก็ได้ เพราะพิสูจน์แล้วว่า เดวิดดูคอฟนี่ย์ที่เพิ่งมีข่าวโจมตีแรง ๆ ว่าอยู่ในขั้นบำบัดอาการอยากเซ็กซ์24ชั่วโมงนั้น ทำให้ทุกอย่างพังพินาศแม้แต่หนังก็ทำลวก ๆ ตามสัญญาให้จบ ๆ ไปซะทีแล้วไม่ต้องมาเจอกันอีก ไม่ปลื้มครับ

ไม่มีความคิดเห็น: